โครงการพัฒนาและการสาธิตเทคโนโลยีหลักสำหรับการป้องกันและควบคุมความปลอดภัย ในอุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคแม่โขง-ล้านช้าง

ข่าว เศรษฐกิจ , 18 พ.ย. 2566, 16:03

โครงการพัฒนาและการสาธิตเทคโนโลยีหลักสำหรับการป้องกันและควบคุมความปลอดภัย ในอุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคแม่โขง-ล้านช้าง

เมื่อวันที่18 พฤศจิกายน 2566  ผศ.ดร.ภราดร สุรีย์พงษ์ หัวหน้าโครงการพัฒนาและการสาธิตเทคโนโลยีหลักสำหรับการป้องกันและควบคุมความปลอดภัยในอุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคแม่โขง-ล้านช้าง (Development and Demonstration of Key Technologies for Industrial Production Safety Prevention and Control in Lancang-Mekong Region)  พร้อมด้วย  Prof.Wu Jun : Guangdong CAS Cogniser Information Technology,China , Mr. Phonpasit Phissamay : Al Lao , Ms. Seng Molika, Director : Department of Science,  Technology & Innovation (GD/STI) , Prof. Dr. Sanouphab PHOMKEONA National University of Laos , Dr. MAY THU Cambodia University of Technology and Science ,  Prof กฤติยา กันทวงศ์ มหาวิทยาลัยพะเยา และผศ. ดร.สันติชัย วิชา สำนักวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงความร่วมมือในโครงการฯ ณ โรงแรมอโมร่า ท่าแพ เชียงใหม่ 
 

โดยโครงการพัฒนาและการสาธิตเทคโนโลยีหลักสำหรับการป้องกันและควบคุมความปลอดภัยในอุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคแม่โขง-ล้านช้าง (Development and Demonstration of Key Technologies for Industrial Production Safety Prevention and Control in Lancang-Mekong Region) ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (Lancang-Mekong Cooperation) (http://www.lmcchina.org)  โดยวัตถุประสงค์หลักเพื่อ พัฒนาแพลตฟอร์มการเพิ่มประสิทธิภาพและการควบคุมความปลอดภัยในอุตสาหกรรมใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ รายการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์สำหรับอุตสาหกรรม สู่สถาบันอุดมศึกษาในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยโครงการนี้ดำเนินงานโดยวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ภายใต้การสนับสนุนของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และ บริษัท แคส ค๊อกไนเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด 
 

โครงการนี้เราได้คัดเลือกอุตสาหกรรมโรงสีข้าว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความใกล้เคียงกันในประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ ประเทศไทย, สปป. ลาว และประเทศกัมพูชา ซึ่งหากได้รับการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดของเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการสีข้าว ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ โครงการฯ จึงได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลที่หลากหลายมาประยุกต์ใช้ เช่น Internet of Things (IoTs), Artificial Intelligence ด้าน Computer Vision และ OpenBadge Learning Platform มาประยุกต์ใช้ ดังนี้
 

การใช้เทคโนโลยี IoTs เพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลในโรงงาน เช่น เซ็นเซอร์เก็บอุณหภูมิและความชื้นในถัง(Silo)เก็บข้าวเปลือก ปริมาณข้าวในถัง การใช้พลังงานในระบบ ซึ่งจะช่วยลดอัตราการสูญเสียของข้าวใน กระบวนการสีข้าว และการติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว การเปิด-ปิดประตู เซ็นเซอร์แก๊สซันเฟอร์ไดออกไซด์ เซ็นเซอร์วัดปริมาณฝุ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งด้านผลผลิต และด้านชีวิตของพนักงานในโรงงาน
นอกจากนี้โครงการฯ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ด้าน  Computer Vision มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในโรงงาน โดยใช้กล้องอัจฉริยะในการตรวจจับวัตถุและวัตถุอันตราย เช่น มนุษย์ สัตว์ ปืน รถยก หมวกนิรภัย และควันไฟ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยจัดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น คนแปลกหน้าที่เดินเข้ามาในพื้นที่หวงห้าม หมาหรือแมวที่เข้ามาในพื้นที่การผลิต พนักงานที่ทำงานใกล้รถยกซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ พนักงานที่ไม่สวมหมวกนิรภัย และไฟที่อาจเกิดขึ้นจากการสะสมของความร้อนและก๊าซในโรงสีข้าว เป็นต้น ซึ่งมีความแม่นยำมากกว่า 97%
 

โครงการฯ ได้พัฒนาและติดตั้งชุดฝึกอบรม ให้แก่สถาบันอุดมศึกษาใน 3 ประเทศได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว (National University of Laos) และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์กัมพูชา(Cambodia University of Technology and Science) ซึ่งได้มีการจัดฝึกอบรม ให้แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม, ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ, นักวิจัย, นักศึกษาที่สนใจ จำนวนกว่า 400 คน โดยใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์ม OpenBadge (www.OpenBadge.co) ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อให้ สามารถถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะและปัญญาประดิษฐ์ให้แก่ผู้ที่สนใจ ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ได้ทุกที่ทุกเวลา
 

จากผลของการพัฒนาเทคโนโลยีในโครงการ คณะทำงานมีแผนต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆได้ เช่น การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในอุตสาหกรรมสุขภาพ (Digital Health), การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoTs  ในการทำการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming), การใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอัจฉริยะ (Smart Tourism) และเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ต่อไป

 


ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

XPENG CHIANGMAI เปิดตัว “NEW XPENG G6 2025” อย่างเป็นทางการในภาคเหนือ

XPENG CHIANGMAI เปิดตัว “NEW XPENG G6 2025” อย่างเป็นทางการในภาคเหนือภายในงาน EV AUTO SHOW 2025 | Central Chiangmai Airportเชียงใหม่, 23 สิงหาคม 2568 – XPENG CHIANGMAI ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางกา...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 23 ส.ค. 2568, 18:33
  • |
  • 576

ส่งมอบรถใหม่ Hyundai STARIA Elite Plus (Euro5) สีดำ เป็นรถยนต์น่าใช้สำหรับครอบครัว

เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ โดยที่ปรึกษาการขายเซลส์แนน ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่                               &nb...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 23 ส.ค. 2568, 07:42
  • |
  • 232

ส่งมอบรถใหม่ Hyundai STARIA Premium (Euro5) PSS สีขาว เป็นรถยนต์น่าใช้สำหรับครอบครัว

 เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ โดยที่ปรึกษาการขายเซลส์แนน ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่                             &nbs...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 21 ส.ค. 2568, 20:35
  • |
  • 348

ส่งมอบรถใหม่ Hyundai STARIA Elite Plus (Euro5)เป็นรถยนต์น่าใช้สำหรับครอบครัว

เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ โดยที่ปรึกษาการขายเซลส์แนน ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่                               &nb...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 19 ส.ค. 2568, 15:16
  • |
  • 427

พบงานใหญ่ EV AUTO SHOW 21-27 สค 68 ที่เซ็นทรัลเชียงใม่แอร์พอร์ต

ข่าวดีสำหรับแฟนๆที่กำลังคิดอยากจะเปลี่ยนรถสักคัน มาที่งานนี้เลย อีวี ออโต้ โชว์ โปรพิเศษ พุ่งแรงทุกดีล งานเริ่มระหว่างวันที่ 21-27 สิงหาคม  68 ที่ลานกิจกรรมชั้น จี เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์ พอร์ต มี...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 17 ส.ค. 2568, 18:46
  • |
  • 144
Sytiq Company

ออกแบบพัฒนาโปรแกรมและแอพลิเคชั่น

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128

Sytiq Company

ออกแบบและติดตั้ง Home Automation

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128