ชาวผาบ่อง ครวญ! ฟื้นตัวยาก พายุคาจิกิ พ่นพิษหนักกว่าที่คิด

แม่ฮ่องสอน สรุปความเสียหายที่หมู่บ้านผาบ่อง จากเหตุพายุคาจิกิ นับจากนี้ผู้ประกอบการและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร?
สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากที่บ้านผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน คลี่คลายแล้ว เหลือไว้เพียงแต่เศษซากและร่องรอยของความเสียหายจากเหตุพายุคาจิกิ พัดถล่มหนักสุดในรอบ 50 ปี สรุปความเสียหายของพื้นที่หมู่บ้านผาบ่อง หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 12 ชาวบ้าน นับจากนี้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร? ในขณะที่กำนันตำบลผาบ่อง ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ได้เข้ามาช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ส่งผลให้ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ
 

นับเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้ว หลังเหตุพายุคาจิกิ พัดถล่มจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง บริเวณถนนหลวงสาย 108 แม่ฮ่องสอน-ขุนยวม ได้รับความเสียหาย รวมทั้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร สัตว์เลี้ยง ยานพาหนะ ร้านจำหน่ายของฝาก ส่งผลให้ผู้ประกอบการ และพี่น้องชาวบ้านประสบอุทกภัยหนักสุดในรอบ 50 ปี
 

หลังเกิดเหตุ นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ระดมกำลังทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมกันเข้าช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง นำโดย อบจ.แม่ฮ่องสอน ปภ.แม่ฮ่องสอน และแขวงทางหลวง นำเครื่องจักรกลหนักที่ช่วยเหลือฟื้นฟูในหลายจุด นำหิน ดิน โคลน ซากไม้ ในพื้นที่ประสบภัยออกไปทิ้ง พร้อมปรับพื้นที่เกลี่ยดินบริเวณบ้านพักของผู้ประสบภัยให้ได้ระดับ เคลียร์ถนนทางหลวง 108 เพื่อให้การสัญจรของประชาชนสะดวกขึ้น โดยปัจจุบันสามารถเคลียร์ และตัดต้นไม้ ขอนไม้ใหญ่ ที่ลอยลำมากับน้ำ วางกองเป็นจุด และเตรียมนำรถยกมาดำเนินการย้ายไปยังจุดที่กำหนดโดยเร็วที่สุด
นายมณฑล ไหวยะ ผู้ใหญ่บ้านห้วยตำข่อน ตำบลผาบ่อง เปิดเผยว่า ความเสียหายในหมู่บ้านผาบ่อง หมู่ที่ 1 บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายประมาณ 7 หลัง หมู่ที่ 12 บ้านเรือน 35 หลัง ส่วนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย 100% มีประมาณ 5 หลัง นอกจากการฟื้นฟูพื้นที่บ้านเรือนซึ่งขณะนี้เข้าพักอาศัยได้แล้ว นับแต่นี้ไปยังคงต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ที่สูญเสีย ที่ได้รับผลกระทบหนักให้มีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไป
 

นางอาทิพย์ ศรีกุลกิจ ชาวบ้านผาบ่อง หมู่ที่ 12 ผู้ประกอบการเจ้าของร้านอาหารลาบเป็ดชายทุ่ง ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่และมีชื่อของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เปิดเผยว่า พื้นที่ร้านของตนที่สร้างเป็นซุ้มหลายซุ้ม ได้รับความเสียหายจากมวลน้ำมหาศาล ที่พัดพาเอาต้นไม้กิ่งไม้พัดไปจนราบ รวมทั้งอุปกรณ์ทำมาหากินในการทำอาหาร ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ยังมีรถยนต์ของครอบครัวที่ถูกกระแสน้ำพัดเสียหายอีก 1 คัน หลังเกิดเหตุตอนนี้คงจะทำมาค้าขายไม่ได้สักระยะหนึ่ง โดยวางแผนว่าจะเข้าไปหาที่ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อเช่าทำร้านเพื่อทำมาหากินไปก่อน ให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวและลูกน้องทีมงานที่ตนต้องรับผิดชอบอีกหลายชีวิต เพราะการฟื้นฟูร้านให้กลับมาเป็นดังเดิมคงต้องใช้เวลานับปี และถ้าหากปรับพื้นที่ให้อยู่ในสภาพเดิมแล้ว ก็จะกลับมาเปิดร้าน ณ ที่เดิม แต่คงจะไม่ใหญ่เหมือนเดิม เพราะร้านที่พังเสียหายไปนั้น สะสมมาเป็นเวลากว่า 30 ปี แต่จะต้องสร้างร้านให้มีความแข็งแรง และยกสูงขึ้นกว่าเดิม 
โดยนางอาทิพย์ ศรีกุลกิจ ได้กล่าวขอบคุณกำนันตำบลผาบ่อง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ผู้ใหญ่บ้านห้วยตำข่อน และทุกหน่วยงานในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ได้เข้ามาช่วยเหลืออย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์เป็นอย่างมาก
 

อีกหนึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากพายุคาจิกิในครั้งนี้ คือนายสอง หรือพ่อเลี้ยงสอง ผู้ประกอบการเจ้าของร้านถั่วสายฟ้า ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายถั่วสุขภาพประเภทถั่วลายเสือ และถั่วซ่อนลาย ของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีทั้งวัตถุดิบ อุปกรณ์ในการผลิตถั่วคั่ว ซุ้มร้านจำหน่ายถั่วคั่ว โรงคั่วถั่ว และบ้านพักอาศัยซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับร้าน เสียหายหนักมูลค่าเป็นหลักล้าน เพราะในวันเกิดเหตุน้ำมาเร็วมาก ที่ทำได้คือเอาชีวิตรอด กับสุนัขอีก 2 ตัว และรถหนึ่งคันออกมาได้อย่างหวุดหวิด ตั้งแต่อยู่มายังไม่เคยเจอขนาดนี้ นับจากนี้ต่อไปก็จะยังคงทำธุรกิจในเรื่องของถั่วคั่วเหมือนเดิมในสถานที่เดิม แต่คงทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปก่อน ขอฝากให้มาช่วยกันอุดหนุนถั่วสายฟ้ากันเหมือนเดิม เพื่อจะได้มีต้นทุนในการดำรงชีพกันต่อไปได้
 

ด้านนางนิภาพันธ์ หน่อเมือง ชาวบ้านผาบ่องหมู่ที่ 12 ซึ่งมีบ้านอยู่ติดถนนสาย 108 ได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน ตัวบ้านถูกน้ำท่วมทั้งหลัง กระแสน้ำมาเร็วมากในช่วงเวลาตีสี่ ทันได้เอารถยนต์ออกไปได้ 1 คัน มอเตอร์ไซค์ 1 คัน พร้อมกับลูกชาย นอกนั้นเสียหายหมด สิ้นเนื้อประดาตัว ส่วนที่นาซึ่งปลูกข้าวได้เดือนกว่า บนพื้นที่ 5 ไร่ ก็เสียหายหมดเช่นกัน ไม่รู้ว่าจะกู้พื้นที่คืนได้อย่างไร มีแต่ดิน ทราย จะต้องใช้เวลาในการบุกเบิกคืนอีกเยอะมาก นับแต่วันนี้ไปต้องเริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง และต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกนานมาก
ป้าตุ๋ย หนึ่งในจำนวนผู้ที่ได้รับความเสียหายเล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า เหตุเกิดครั้งนี้ยังประเมินความเสียหายไม่ได้เลย ทุกอย่างที่อยู่ในบ้าน รวมถึงตัวบ้านซึ่งเป็นบ้านไม้ เสียหายหมด ต่อจากนี้ไป ยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ เพราะอายุตอนนี้ก็ 60 กว่าแล้ว และก็ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่
 

ขณะที่ป้าเพ็ญ เจ้าของร้านส้มตำเล็ก ๆ ริมถนนหลวงสาย 108 ซึ่งเป็นที่นิยมของลูกค้า ก็เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ป้าเพ็ญบอกเราว่า เมื่อปี 2548 เกิดน้ำป่าหลากเช่นกันแต่ไม่หนักหนาเหมือนปีนี้ ที่น้ำไหลมาหลากท่วมบ้านซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นจนมิดหลังคา ตนเอง พร้อมสามีซึ่งเป็นผู้พิการตาบอดทั้งสองข้าง น้อง และหลาน รอดชีวิตมาได้ ส่วนร้านส้มตำ กับรถมอเตอร์ไซต์ ถูกน้ำป่าดินโคลนซัดและทับถมไปจนหมด ที่นาก็พังราบ ทรัพย์สมบัติที่หามาทั้งชีวิตไม่เหลืออะไรเลย ต้องเริ่มใหม่หมด จะทำอย่างไรต่อไปนับจากนี้ก็ยังเคว้งคว้าง และยังคิดอะไรไม่ออก
 

นางวรรณา รักศร ชาวบ้านผาบ่อง หมู่ที่ 12 เป็นผู้ประสบภัยอีกรายหนึ่ง ซึ่งมีสมาชิกในบ้านเป็นผู้ป่วยติดเตียง ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ บอกว่า นอกจากความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ที่ได้รับแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ยังต้องการคือแพมเพิร์ส และแผ่นรอง ทั้งนี้ ผู้ที่มีใจกุศลต้องการช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้หมายเลขโทรศัพท์  097-3132478
นางสายันต์ อีกหนึ่งผู้ประสบภัยซึ่งบ้านของตนเปิดเป็นร้านตัดเย็บเสื้อผ้า และรับซ่อมเสื้อผ้า ก็ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ บอกเราว่าน้ำมาเร็วมาก เอาอะไรไม่ได้เลย ต้องหนีขึ้นชั้น 2 จึงรอดชีวิตมาได้ อยู่มาจนตอนนี้อายุ 60 ปี เพิ่งเคยประสบเหตุในครั้งนี้ ซึ่งหนักหนาสาหัสมาก ในส่วนตัวมีทรัพย์สินเช่น เครื่องมือการเกษตร จักรอุตสาหกรรม จักรธรรมดา เกือบ 10 เครื่อง ที่นอนหมอนมุ้ง เสียหายหมดไม่เหลืออะไรเลย หลังจากนี้ไปจะซ่อมจักรก่อน อย่างน้อยก็จะได้มีเครื่องมือในการทำมาหากิน หากระบบไฟฟ้าดีแล้ว ก็จะได้เริ่มรับซ่อมเสื้อผ้า ตัดเย็บเสื้อผ้า เพื่อประทังชีวิตและเป็นรายได้ดูแลตนเองและครอบครัวต่อไป
 

ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านการฟื้นฟู ที่บ้านผาบ่อง หมู่ที่ 12  ซึ่งปัจจุบันสามารถกำจัดและตัดต้นไม้ ขอนไม้ใหญ่ ออกไปได้จำนวนมาก
ด้านนายอมร ศรีตระกูล กำนันตำบลผาบ่อง ผู้นำชุมชม ที่ได้ทุ่มเททั้งแรงกาย และแรงใจในการดูแลชาวบ้าน การประสานหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ฟื้นฟู กำกับดูแลการเคลียร์พื้นที่ประสบภัย จนในวันนี้สถานการณ์บ้านผาบ่องเริ่มคลี่คลาย จะเหลือแต่เพียงการซ่อมแซม ซ่อมสร้าง และการเยียวยาให้กับลูกบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในขั้นตอนต่อไป โดยนายอมร ศรีตระกูล กำนันตำบลผาบ่อง ได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือตำบลผาบ่อง นับจากนี้ไป ชาวบ้านก็จะได้เริ่มทำความสะอาดบ้านเรือน ฟื้นฟูวิถีชีวิตและเตรียมปักหลักสร้างร้านค้า กิจการเพื่อทำมาหากินและดำรงชีพต่อไป.