CMUBS ฉลองครบรอบ 60 ปี เปิดตัวความร่วมมือแพลตฟอร์ม “เชียงใหม่เมืองปราบเซียน” จุดประกายเศรษฐกิจเหนือยุคใหม่ ด้วยองค์ความรู้ งานวิจัย เทคโนโลยี และหัวใจมนุษย์

  วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMUBS) สานต่อพันธกิจแห่งความรู้ สู่การขับเคลื่อนสังคมอย่างยั่งยืน ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งการก่อตั้ง โดยร่วมมือกับแพลตฟอร์ม “เชียงใหม่เมืองปราบเซียน” เปิดตัวกิจกรรม Story Lab ภายใต้ธีม “Traditional + Technology: เมื่อนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเข้าขับเคลื่อนธุรกิจดั้งเดิมของเชียงใหม่” ณ Firefly Factory จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลต์ที่สะท้อนบทบาทของ CMUBS ในฐานะ Business School แห่งอนาคต ที่พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคด้วยพลังขององค์ความรู้ งานวิจัย และความเข้าใจในบริบทท้องถิ่น

ภายในงาน Story Lab มีการเชิญผู้ประกอบการ นักเทคโนโลยี นักลงทุน และผู้นำชุมชนจากภาคเหนือร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ จุดประกายแนวคิด และสร้างเครือข่ายแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ก้องภู นิมานันท์ คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับเกียรติเป็นหนึ่งใน Keynote Speaker เปิดเวทีด้วยหัวข้อ “Brains Beat Bots ปัญญาที่ไม่ประดิษฐ์... คุณค่าทางธุรกิจที่เหนือกว่าอัลกอริธึม และ Educational Tech Transformation” สะท้อนวิสัยทัศน์ของ CMUBS มุ่งเป็น Business School แห่งอนาคต ที่ไม่เพียงส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยี แต่ยังบ่มเพาะทักษะความเป็นมนุษย์ เพื่อสร้างผู้บริหารที่เข้าใจโลก เข้าใจคน และเข้าใจตนเอง ซึ่งเป็นคุณค่าหลักที่  AI ไม่สามารถเลียนแบบได้

 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ก้องภู นิมานันท์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในงานว่า กิจกรรม Story Lab ครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญภายใต้แผนงานเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งตลอดทั้งปีคณะฯ ได้จัดเตรียมกิจกรรมอย่างหลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างการรับรู้ ตอกย้ำความเป็น Business School ชั้นนำของประเทศไทย ทั้งในเชิงวิชาการ กิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างคณาจารย์ บุคลากร และศิษย์เก่าทุกยุคสมัย รวมถึงงานฉลองครบรอบ 60 ปี ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสานสัมพันธ์พี่น้องของชาวคณะบริหารธุรกิจทุกยุคสมัย ตอกย้ำความสำเร็จตลอดหกทศวรรษ พร้อมจุดประกายทิศทางใหม่ของ CMUBS ในอนาคตที่ท้าทายยิ่งขึ้น และในโอกาสเดียวกันยังทิ้งท้ายเชิญชวนศิษย์เก่าคณะฯ ร่วมงานฉลองความสำเร็จและความภูมิใจนี้ไปพร้อมกัน

 สำหรับความร่วมมือระหว่างคณะฯ กับแพลตฟอร์ม “เชียงใหม่เมืองปราบเซียน” ครั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ก้องภู นิมานันท์ กล่าวว่า เป็นการสะท้อนความมุ่งมั่นของ CMUBS ในการเป็นสะพานเชื่อมองค์ความรู้จากห้องเรียนสู่ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในบริบทของเชียงใหม่และเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ เป็นการเพิ่มโอกาสให้องค์ความรู้จากงานวิจัยของคณะฯ ได้ถ่ายทอดสู่ภาคธุรกิจจริงมากขึ้น ผ่านการแปลผลและเล่าเรื่องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เข้าถึงได้ และต่อยอดได้จริง และสามารถขยายผลสู่ระดับภูมิภาค เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยมีศูนย์นวัตกรรมการจัดการ (MIC) ภายใต้การนำของ อาจารย์ ดร.ชานนท์ ชิงชยานุรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ซึ่งเป็นแกนนำในการประสานงานและขับเคลื่อนพลังของงานวิจัยที่ใช้ได้จริง และ ข้อมูลที่เข้าใจชุมชน เป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงเมือง

 อาจารย์ ดร.ชานนท์ ชิงชยานุรักษ์ กล่าวเสริมว่า การขับเคลื่อนแพลตฟอร์มนี้เป็นการทำงานแบบ agile ที่มุ่งผลลัพธ์ ไม่ยึดติดกับข้อจำกัด และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติที่จับต้องได้ โดยคณะฯ และศูนย์ MIC ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุน (ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของธุรกิจ) ในทุกมิติ ทั้งการให้คำปรึกษาทางวิชาการ การเชื่อมโยงเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญ การพัฒนางานวิจัย รวมถึงการสนับสนุนทางกลยุทธ์และทรัพยากร ซึ่งความตั้งใจของเราไม่ได้จบแค่การส่งมอบองค์ความรู้ แต่ยังต่อยอดสู่การสร้าง community ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ดังเช่นเงานนี้ซึ่งนับเป็น First Meetup ของกลุ่มคนที่มีหัวใจเดียวกันในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาคเหนืออย่างสร้างสรรค์ไปด้วยกัน

 สำหรับแพลตฟอร์ม “เชียงใหม่เมืองปราบเซียน” ดำเนินการโดยสองผู้ก่อตั้ง คือ คุณดิศพัฒน์ จิรสรรพกาญจน์ และ คุณทิติยา จันตะเภา (ภายใต้ บริษัท มีเดียม แรร์ ดิจิทัล จำกัด) เป็นพื้นที่สาธารณะของความรู้เชิงลึกด้านธุรกิจที่หาไม่ได้ทั่วไป นำเสนอเรื่องยากให้เข้าใจง่าย โดยเฉพาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากเติบโตในยุคดิจิทัล พร้อมเป็นสะพานเชื่อมระหว่างผู้ประกอบการ นักลงทุน นักธุรกิจหน้าใหม่ และคนเชียงใหม่ที่อยากเห็นบ้านเกิดเติบโต ให้สามารถพูดคุย แบ่งปันความคิด และสร้าง Hub of Wisdom สำหรับผู้ที่อยากเติบโตในเศรษฐกิจยุคใหม่บนฐานของข้อมูลที่เจาะลึกและเข้าใจท้องถิ่นอย่างแท้จริง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามมากกว่า 37,000 บัญชี บนช่องทางออนไลน์หลัก โดยตั้งเป้าผู้ติดตามจำนวน 100,000 บัญชี ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ แผนต่อไปกำลังขยายผลความร่วมมือกับภาคี ได้แก่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่, ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ และ CMUBS ในการจัดทำงานวิจัยเชิงลึกเพื่อสร้าง Business Insight ที่สะท้อนบริบทเศรษฐกิจจริง ในพื้นที่ พร้อมต่อยอดสู่กิจกรรมเฉพาะกลุ่ม เช่น เวิร์กช็อป, Business Talk, Networking และ Business Matching เพื่อผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ การลงทุน และการพัฒนาทุนมนุษย์ในจังหวัดเชียงใหม่และภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง